ประวัติส่วนตัว
นายชัยนันท์ หัตถประดิษฐ์
เกิดวันที่ 6
กันยายน 2520
ประวัติการศึกษา
เข้าเรียนอนุบาลที่
โรงเรียนอนุบาลบ้านนาเคียน ประถมศึกษาปีที่ โรงเรียนบ้านนาเคียน เป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน
เป็นประธานนักเรียนขณะเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ได้โควตาเป็นนักกีฬาเข้าเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนเมืองนครศรีธรรมราช
เป็นนักกีฬาฟุตบอล, กรีฑา, เซปักตะกร้อของโรงเรียน
ได้โควตาเรียนต่อที่โรงเรียนนครศรีธรรมราช แผนวิทยาศาสตร์-คำนวณ
เป็นนักกีฬาของโรงเรียน เข้าแข่งขันเซปักตะกร้อกีฬานักเรียน-นักศึกษา
ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 แข่งขันกรีฑา
แข่งขันตะกร้อลอดห่วง ได้รองชนะเลิศอับดับ 1
ตอนเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่
6 ได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการนักเรียนฝ่ายกีฬา
เพื่อช่วยให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างจากการเรียน
ได้เล่นกีฬาและร่วมกิจกรรมนันทนาการอื่นๆ
ได้โควตากีฬาฟุตบอล
เข้าศึกษาต่อที่สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช เข้าเรียนวิชาหลักสูตรวิทยาศาสตร์ทั่วไป
เป็นนักกีฬาฟุตบอลของสถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2
ณ สถาบันราชภัฏสุราษฏร์ธานีธานี
ซึ่งสถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราชเป็นเจ้าภาพ จบปริญญาตรีเมื่อปี พ.ศ. 2543 เข้าสอบในโรงเรียนมุสลิมสันติธรรมมูลนิธิ
โดยได้ใช้กีฬาเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าทำงาน การสอบเข้าเน้นการสอบเรื่อง
การใช้ชีวิตในสังคม สอบให้คิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น มีความภาคภูมิใจที่ได้เห็นลูกศิษย์จบไปอย่างมีคุณภาพ
มีความคิด และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี เพราะโรงเรียนที่ข้าพเจ้าสอบเป็น
โรงเรียนประเภทปอเนาะ มีนักเรียนเป็นอิสลาม 100% ฉะนั้นการสอนให้นักเรียนรู้จักหน้าที่ของตนเอง
รู้จักสังคม สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ได้จัดทำทีมกีฬาฟุตบอลกับคณะครูอีก 2 ท่านคือ อาจารย์วสันต์ โต๊ะอีสอ ผู้ริเริ่มจัดทำทีมกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน
และอีกท่านหนึ่งคือ อาจารย์วิชิต จำนงฤทธิ์ เป็นผู้ช่วย ภาคภูมิใจที่ได้ใช้ทักษะ
ทางด้านกีฬา
ฝึกฝนนักกีฬา ขณะนี้ทำให้นักกีฬาของโรงเรียนมุสลิมสันติธรรมมูลนิธิมีชื่อเสียง
เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในวงการฟุตบอลจังหวัดนครศรีธรรมราช นับเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนมุสลิมได้แสดงออกถึงความสามารถด้านกีฬา
และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ รู้จักแพ้ รู้จักชนะ รู้จักการให้อภัย
ข้าพเจ้าภาคภูมิใจที่ได้เข้าสอนที่สถาบันแห่งนี้ ซึ่งนับเป็นเวลา 10 ปี สถาบันแห่งนี้ได้ให้ประสบการณ์อีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกับผู้อื่น การเสียสละ การให้อภัย
การดูแลเอาใจใส่ผู้เรียน รวมถึงการปรับตัวที่จะอยู่กับคนอื่นได้
“เรารู้สึกดีที่มีความสำคัญ
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือเป็นคนดี”
จากประวัติของครูในดวงใจข้างต้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเองดังนี้
การใช้ชีวิตของคนเราต้องมีความพยายาม
อดทน รู้จักการให้อภัย และการปรับตัวเข้ากับคนอื่นให้ได้
หากคนเราอยู่ร่วมสังคมกับคนอื่นแล้วไม่มีการให้อภัยเราก็ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น