วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมที่ 5

ครูที่นักเรียนชื่นชอบ
ประวัติส่วนตัว
                    นายชัยนันท์ หัตถประดิษฐ์
                    เกิดวันที่ 6 กันยายน 2520
ประวัติการศึกษา
                    เข้าเรียนอนุบาลที่ โรงเรียนอนุบาลบ้านนาเคียน ประถมศึกษาปีที่ โรงเรียนบ้านนาเคียน เป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน เป็นประธานนักเรียนขณะเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้โควตาเป็นนักกีฬาเข้าเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนเมืองนครศรีธรรมราช เป็นนักกีฬาฟุตบอล, กรีฑา, เซปักตะกร้อของโรงเรียน ได้โควตาเรียนต่อที่โรงเรียนนครศรีธรรมราช แผนวิทยาศาสตร์-คำนวณ เป็นนักกีฬาของโรงเรียน เข้าแข่งขันเซปักตะกร้อกีฬานักเรียน-นักศึกษา ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 แข่งขันกรีฑา แข่งขันตะกร้อลอดห่วง ได้รองชนะเลิศอับดับ 1
                    ตอนเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการนักเรียนฝ่ายกีฬา เพื่อช่วยให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างจากการเรียน ได้เล่นกีฬาและร่วมกิจกรรมนันทนาการอื่นๆ
                    ได้โควตากีฬาฟุตบอล เข้าศึกษาต่อที่สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช เข้าเรียนวิชาหลักสูตรวิทยาศาสตร์ทั่วไป เป็นนักกีฬาฟุตบอลของสถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ณ สถาบันราชภัฏสุราษฏร์ธานีธานี ซึ่งสถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราชเป็นเจ้าภาพ จบปริญญาตรีเมื่อปี พ.ศ. 2543 เข้าสอบในโรงเรียนมุสลิมสันติธรรมมูลนิธิ โดยได้ใช้กีฬาเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าทำงาน การสอบเข้าเน้นการสอบเรื่อง การใช้ชีวิตในสังคม สอบให้คิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น มีความภาคภูมิใจที่ได้เห็นลูกศิษย์จบไปอย่างมีคุณภาพ มีความคิด และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี เพราะโรงเรียนที่ข้าพเจ้าสอบเป็น โรงเรียนประเภทปอเนาะ มีนักเรียนเป็นอิสลาม 100% ฉะนั้นการสอนให้นักเรียนรู้จักหน้าที่ของตนเอง รู้จักสังคม สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ได้จัดทำทีมกีฬาฟุตบอลกับคณะครูอีก 2 ท่านคือ อาจารย์วสันต์ โต๊ะอีสอ ผู้ริเริ่มจัดทำทีมกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน และอีกท่านหนึ่งคือ อาจารย์วิชิต จำนงฤทธิ์ เป็นผู้ช่วย ภาคภูมิใจที่ได้ใช้ทักษะ

                     ทางด้านกีฬา ฝึกฝนนักกีฬา ขณะนี้ทำให้นักกีฬาของโรงเรียนมุสลิมสันติธรรมมูลนิธิมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในวงการฟุตบอลจังหวัดนครศรีธรรมราช  นับเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนมุสลิมได้แสดงออกถึงความสามารถด้านกีฬา และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ รู้จักแพ้ รู้จักชนะ รู้จักการให้อภัย ข้าพเจ้าภาคภูมิใจที่ได้เข้าสอนที่สถาบันแห่งนี้ ซึ่งนับเป็นเวลา 10 ปี สถาบันแห่งนี้ได้ให้ประสบการณ์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกับผู้อื่น การเสียสละ การให้อภัย การดูแลเอาใจใส่ผู้เรียน รวมถึงการปรับตัวที่จะอยู่กับคนอื่นได้
“เรารู้สึกดีที่มีความสำคัญ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือเป็นคนดี”

จากประวัติของครูในดวงใจข้างต้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเองดังนี้
                    การใช้ชีวิตของคนเราต้องมีความพยายาม อดทน รู้จักการให้อภัย และการปรับตัวเข้ากับคนอื่นให้ได้   หากคนเราอยู่ร่วมสังคมกับคนอื่นแล้วไม่มีการให้อภัยเราก็ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น